top of page
Search

การเตรียมตัว ก่อนออกผจญภัย ✈️Tae in UK EP.1✈️

  • Writer: Praorawee Pojanapakorn
    Praorawee Pojanapakorn
  • Jan 21, 2022
  • 2 min read
ถ้าไม่ไปตอนนี้ จากนี้ไปจะได้ไปไหมก็ไม่รู้

นี่คือคำตอบของเต้เมื่อมีคนถามว่า ทำไมฝึกงานเสร็จต้องไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศเลย🤔


เริ่มต้นจากเต้ค่อนข้างที่จะหมดไฟในการทำงานเกี่ยวกับการทำหนังมาสักพักหนึ่ง😭 ซึ่งตอนนั้นเกิดจากการฝึกงานด้วยแหละ สิ่งที่รู้สึกสิ่งแรกคือ อยากออกจากสภาพแวดล้อมทุกอย่างที่อยู่ในขณะนั้น แล้วบังเอิญว่าเราใฝ่ฝันไว้ว่า อยากมีโอกาสทำงานที่มัน world wide กว่านี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เรามีปัญหานั่นก็คือเรื่องของภาษา (จริง ๆ เต้เรียนสาย อังกฤษ - เลข มานะตอนม.ปลาย แต่ไม่มีความรู้อะไรที่ติดตัวมาเลย 5555 มุแง )

ทีนี้เต้เลยเริ่มค้นคว้าหาข้อมูล โดยเต้อยากเรียนที่ประเทศอังกฤษอยู่แล้ว


เต้ค้นคว้าข้อมูลตามนี้

  1. โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่มีมาตราฐาน ✔️ จากนั้นเต้จะเปรียบเทียบด้านการเรียน คอร์สเรียน ว่ามีการเรียนการสอนแบบไหนบ้าง ✔️ ดูกิจกรรมว่าแต่ละที่มีอะไรให้ทำบ้าง ✔️ บริการอื่น ๆ และสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ✔️ ราคา

  2. เมื่อเราดูโรงเรียนที่เราชอบแล้ว จากนั้นก็ดู สาขา หรือ เมือง ที่เราอยากไปเรียน ✔️ ลักษณะของเมือง ว่าเข้ากับการใช้ชีวิตของเรามั้ย ✔️ สภาพอากาศ ✔️ การเดินทาง และ เมืองแวดล้อม

อันนี้คือ ข้อมูลหลัก ๆ ที่เต้ค้นคว้าหาเพื่อประกอบการตัดสินใจ สุดท้ายแล้วเต้ก็เอาไปปรึกษา เอเจนซี่อยู่ดีนะ เต้ใช้บริการของ Hands-on บริการดีมาก ไม่ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว5555 คือการที่เรามีที่ในใจอยู่แล้วเนี่ย มันจะทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจมาก ๆ แต่ข้อมูลอื่น ๆ ก็สามารถปรึกษา เอเจ้นได้เช่นกันค่ะ 😇



สรุปแล้วเต้เลือกเรียนที่ โรงเรียน Stafford House เมือง Canterbury , UK


ซึ่งโรงเรียนนี้อยู่ในเครือข่ายของ British Council ซึ่งก็คือองค์กรที่เชื่อมโยงนานาประเทศกับUKในเรื่องของการเรียนภาษา วัฒนธรรม ฯลฯ (ใช่มะ น่าจะนะ) ละก็อยู่ในการควบคุมของCambrige ด้วยเจ้า😬


อะเรามีดูเช็คลิสของเรากันก่อนว่าทำไมเราถึงเลือกที่นี่



1. โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่มีมาตราฐาน

🧡 คอสเรียน มีให้เลือกหลายแบบ เต้เลือกเรียนแบบ Super Intensive คือ เข้มข้นมว๊ากกก

ภาพตารางเรียนของ Super Intensive ใน 1 สัปดาห์

ซึ่ง จะแตกต่างจาก แบบ Standard คือ จะมี Class Module (คือคลาสที่เราสามารถเลือกเองตามความสนใจ) 2 คลาสในช่วงบ่าย

ก็คือ ทุกคน ทุกคอร์ส จะต้องเรียน Core ในตอนเช้า เพราะเป็นคลาสเรียนหลัก จะแบ่งตามระดับภาษาของแต่ละคน โดยจะมีการสอบวัดผล ทุกวันจันทร์ เพื่อดูว่า เรามีพัฒนาการมากเพียงพอที่จะสามารถเลื่อนขั้นได้หรือไม่ แต่สำหรับ Module คือเรียนในช่วงบ่าย จะชิวกว่า ไม่มีสอบ เปลี่ยนไปทุกๆเดือน หรือ ทุกๆสองสัปดาห์เนี่ยแหละจำไม่ได้ละ ถ้าเลือกเรียนแบบ Standard จะไม่มี Module ก็คือเรียนแค่ช่วงเช้าอย่างเดียว แต่ถ้าเรียนแบบ Intensive จะมี Module แค่คลาสเดียว

เต้เลือกเรียนแบบ Super ก็เรียนกันยาวๆ จนบ่ายสามครึ่งกันไปเลยจร้า 😱

ระยะเวลาเรียนเต้เลือกเป็น 8 เดือน (36weeks) เพราะคำนวนให้ตรงกับตารางชีวิตของเรา เต้จะกลับมารับปริญญาตอนปลายปีนั่นเอง

แต่ถ้าใครอยากเรียนกี่week ก็ได้นะ เค้าไม่ได้บังคับ แล้วแต่เราเลยจร้า มีเพื่อนบางคนมาเรียนแค่ 1 weeks ก็มี อิอิ 😅

🧡 กิจกรรม โรงเรียนนี้มีกิจกรรมให้ทำแทบทุกวัน 555555

สถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ในเมือง ซึ่งก็จะป็นหนึ่งในกิจกรรมของโรงเรียนด้วย

อันนี้ยกตัวอย่างกิจกรรมที่โรงเรียนจัดให้ ส่วนมากจะพาไปสถานที่สำคัญ ๆ ในเมือง ซึ่งส่วนมาก

จะ ! ฟรี ! 🤑🤑🤑 อย่างบางที่ต้องเสียเงินเข้า แต่ถ้าไปกับโรงเรียน ก็เข้าได้ฟรี (หรือบางที่ไกลๆ อาจจะเสียเงินในราคาที่ถูกมาก ๆ ) นอกจากนั้นก็จะมีกิจกรรมที่ทำในโรงเรียนด้วยเช่น จัดปาร์ตี้ นานาชาติ วาดรูป เล่นเกม เต้น เป็นต้น สนุกมาก การเข้าร่วมกิจกรรมก็จะทำให้สนิทกับเพื่อน ๆ ได้ไวขึ้น

🧡 บริการอื่น ๆ และสภาพแวดล้อมของโรงเรียน

เรื่องที่พัก โรงเรียนมีบริการจัดหาให้!! โดยเราสามารถเลือกได้ ขอรีวิวข้อดีข้อเสียไปด้วยเลยละกัน


Home Stay คือการอยู่กับครอบครัวชาวอังกฤษ

ข้อดี มีอาหารเช้าให้ เราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาแบบ มีอาหารเย็นด้วยมั้ย โฮสก็จะเป็นคนหุงหาดูแลให้ ส่วนเรื่องซักผ้าต่าง ๆ ก็แล้วแต่ตกลง แต่ของบ้านเต้คือเค้าซักให้ ซักรวมกับของครอบครัวเค้าไปเลย และถ้าใครเป็นคนช่างพูดหน่อยนี่ก็คือได้เปรียบในเรื่องของการได้ฝึกพูดคุยกับคนพื้นเมืองจริง ๆ

ข้อเสีย เรื่องความเป็นส่วนตัว😅 เพราะเราค่อนข้างต้องทำตามกฎของบ้าน ซึ่งบางกฎเราก็ไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ เช่น ห้ามกดชักโครกตอนทุกคนนอน ห้ามอาบน้ำเกิน 5 ทุ่ม อะไรเงี้ย55555 😓

Student Shared House แชร์บ้านกับนักเรียนคนอื่นในโรงเรียน คือเป็นบ้านที่อยู่ในการดูแลของโรงเรียน Housemate ก็จะเป็นเด็กในโรงเรียนเนี่ยแหละ

ข้อดี ความเป็นส่วนตัวนี่ให้9/10 อยากทำไรก็ได้ อาบน้ำตอนไหน กดชักโครกตอนไหนก็ได้55555 ถ้าใครชอบทำอาหารเองก็จะยิ่งดีไปใหญ่เลยไม่ต้องเกรงใจเจ้าของบ้าน เพราะเราแชร์กันทุกคนไงละจ๊ะ55555😉

ข้อเสีย สุ่มดวงเพื่อนร่วมบ้าน ถ้าได้เพื่อนร่วมบ้านดี สะอาด ก็โชคดีไป แต่ถ้าใครเจอแบบ สกปรก ชอบปาร์ตี้ ขอบอกเลยว่าปวดหัวมาก 😭😭😭


Dormitory หอพักแบบ มีห้องน้ำส่วนตัว แชร์ครัวห้องนั่งเล่น ซึ่งโรงเรียนจะจัดให้เราอยู่กันกับนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน

ข้อดี ความเป็นส่วนตัวเทียบเท่าแบบแชร์บ้าน แต่สิ่งอำนวยความสะดวกจะเยอะหน่อย เพราะอารมณ์คอนโดเมืองไทยที่มีส่วนกลาง ฟิตเนสเอย ห้องดูหนังเอย ที่เล่นเกมเอย ห้องปาร์ตี้เอย ไรเอย 🥳🤩

ข้อเสีย นึกไม่ออก น่าจะแพงสุดนะ แต่ถ้าไปหาเช่าเองคิดว่าถูกกว่า แต่ถ้าผ่านโรงเรียนจะแพงกว่าแบบอื่น ๆ เพราะปกติถ้าการเช่าหอแบบนี้ ถ้าเช่าเอง มันจะมีสัญญาขั้นต่ำกว่าต้องอยู่หลายเดือนอ่ะ


ในการสมัคร เราจะต้องเลือกที่พักไปเลยเพราะต้องระบุในการทำวีซ่าและตอนเข้าตม.✌️

เต้เลือกแบบ Home Stay เป็นเวลา 2 เดือน

เพราะที่บ้านค่อนข้างเป็นห่วงด้วย อยากให้มีผู้ใหญ่มีคนดูแลเพราะเต้ไปคนเดียว ไม่มีเพื่อน ที่บ้านกลัวไปเอ๋อ 555555 ส่วนที่เลือก 2 เดือน เพราะเราต้องลองอยู่ก่อน ว่ามันโอเคมั้ย ถ้าโอเค ก็สามารถเลือกอยู่ต่อได้ หรืออยากจะเปลี่ยนบรรยากาศ ก็เปลี่ยนได้เช่นกัน😻


สภาพแวดล้อมของโรงเรียน

บริเวณ Reception และ โซนนั่งเล่น กินข้าว ห้องครัว

แน่นอนว่าเราต้องดูสภาพของที่ ๆ เราจะไปเรียน ไปอยู่ด้วย 5555555 เต้เลือกแบบ สะอาด โล่ง ปลอดโปร่งไว้ก่อน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับจำนวนของนักเรียน กับ สถานที่ เต้ว่าไม่ได้อึดอัดจนเกินไป เพราะฉนั้นเลยรู้สึกถูกชะตากับที่นี่มาก 😍🥰

ห้องครัว และ โซนนั่งเล่น กินอาหาร

สิ่งอำนวยความสะอวกต่าง ๆ ด้วย มีตู้เย็น มีไมโครเวฟ มีไวไฟ มีคอมให้ใช้ มีห้องสำหรับอ่านหนังสือ คือสิ่งที่ต้องคำนึงนะ เพราะเสียเงินมาเรียนแล้ว ไม่ต้องเอาให้คุ้ม แต่ต้องเอาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ตัวเองที่สุด👌


ห้องเรียน

ห้องเรียนจะมีสองแบบ นั่นคือแบบนั่งโต๊ะ และแบบ โต๊ะเลคเชอร์ ซึ่งก็จะถูกเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แล้วแต่ขนาดของนักเรียนในห้อง (ไม่เกิน 12-15คน) << ตรงจำนวนคน ตอนเลือกโรงเรียนก็ต้องดูด้วยนะ เพราะเขาจะต้องระบุ ไม่งั้นเราจะไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า เราจะเรียนกับนักเรียนในห้องเยอะแค่ไหน 😱 แต่เต้ชอบแบบ คลาสเล็ก ๆ เพราะครูจะใส่ใจได้ทั่วถึงทุกคน ข้อดีของแบบนั่งโต๊ะคือ พื้นที่กว้าง วางของได้เยอะ เหมาะกับคนไม่ชอบขยับตัว🤣 ส่วนแบบโต๊ะเลคเชอร์คือ เต้โคตรเกลียด5555😓 มันแคบอะ แต่ข้อดีคือ เราสามารถยกไปมา เพื่อทำการรวมกลุ่มได้ อันนี้จะเหมาะกับคลาสที่ชอบทำกิจกรรมบ่อย ๆ 🤗

🧡 ราคา

55555 พูดไงดีฟะ 😅😅😅เอาเป็นว่าแล้วแต่ทุนของแต่ละคนว่าเหมาะกับแบบไหน แต่สำหรับเต้ เต้ใช้วิธีคำนวนเป็นรายชั่วโมง ซึ่งเต้ลองคำนวนของที่นี่ (ปี2019 เมือง Canterbury) มันจะเฉลี่ย ชั่วโมงละประมาณ 500 ซึ่งถ้าลองมาเปรียบเทียบกับ การเรียนภาษาที่เมืองไทยกับเจ้าของภาษา เต้ว่าราคานี้คือราคาที่โค ตะ ระ จะดีมาก ๆ 🤩 แต่สิ่งที่จะแพงมาก คือเรื่องของ ที่อยู่อาศัย 😵‍💫 แต่ที่บ้านซัพพอร์ทเลยไม่มีปัญหาอะไร ค่าครองชีพอื่น ๆ ไม่ได้มีรายละเอียดมาก เพราะ สาธารณูปโภคเราไม่ได้ยุ่งอยู่แล้ว ค่าอาหารการกิน อยู่ที่คนละล่ะ เต้ไม่ค่อยกินอะไรเยอะ ส่วนมากก็กินง่าย ๆ ไม่กินร้านอาหาร แต่เบียร์ถูกนะ🤫 ค่าเดินทางก็แพง แต่เต้เดินซะส่วนมาก


2. เมื่อเราดูโรงเรียนที่เราชอบแล้ว จากนั้นก็ดู สาขา หรือ เมือง ที่เราอยากไปเรียน

💛 ลักษณะของเมือง

จงกำหนดเป้าหมายของตัวเจ้ามาให้มั่นคง 💪💪

กล่าวคือ ถ้าตั้งใจมาเรียนอย่างแน่วแน่ ก็ไม่ต้องพะวงเรื่องเที่ยวให้มันมากนัก 555555

เต้ตั้งใจมาเรียนโดยเฉพาะ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเที่ยว เรื่องปาร์ตี้ และเต้ชอบที่เงียบ ๆ ไม่โครมครามวุ่นวาย เต้เลยเลือกเมือง Canterbury ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของอังกฤษ (อยู่ใต้Londonลงมาเยอะเลย)

ห่างไกลเมืองหลวง แต่ไม่ห่างไกลความเจริญเด้อ

ด้วยความที่มันไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวจ๋าขนาดนั้น ค่าครองชีพก็จะถูกลงไปด้วย เช่นอาหาร ของในตลาดไรเงี้ย ด้วยผังเมืองไม่ใหญ่ คนก็จะไม่ได้พลุกพล่านมาก เดินสบาย ๆ 🕺 🕺

Canterbury Kent , UK

💛 สภาพอากาศ

ด้วยความที่ ไม่ได้อยู่เหนือมากขนาดนั้น สภาพอากาศเลยไม่ได้หนาวเหน็บจนคนเอวบางเลือดน้อยแบบเราจะทนไม่ได้🥶

อุณหภูมิเฉลี่ยในแต่ละเดือน

เห็นแบบนี้แล้ว คิดว่าพอทนได้อยู่นะ... ความจริงเป็นไงเดี๋ยวรอ EP ต่อๆไปนะ 555555

💛 การเดินทาง และ เมืองแวดล้อม

การเดินทาง สามารถเดินทางด้วยเท้าเปล่าได้ เนื่องจากเมืองไม่ได้ใหญ่มาก ถ้าขี้เกียจเดิน ก็มีรถบัส (รถเมล์อะ) แต่แพง ไม่ค่อยได้นั่งหรอก ถ้าอยากไปเที่ยวเมืองอื่น สามารถนั่งรถบัสก็ได้ หรือจะนั่งรถไฟก็ได้ สถานีรถไฟมีสองที่ในเมือง สะดวกสุด ๆ แต่ถ้าตอนกลางคืนไม่อยากเดินในเมืองหรือรอบรถบัสหมด ก็เรียกแท็กซี่ได้ แต่แพงสาสสสสสส 😓😓😓



พอเราวางแพลนสำหรับการไปอยู่ 8 เดือนของเราเรียบร้อยแล้ว

คราวนี้ก็พร้อมออกพจญภัยในต่างโลก เอ้ย

ต่างแดนกันแล้วววววว..

รอติดตาม EP ต่อไปน้าาาา✈️



🥰

 
 
 

Comments


Post: Blog2_Post

+66 82 491 9226

©2022 by Praorawee Pojanapakorn. Proudly created with Wix.com

bottom of page